การนำเข้าสินค้าจากจีน มีขนส่งประเภทไหนบ้าง และแตกต่างกันอย่างไร?

การนำเข้าสินค้าจากจีน มีขนส่งประเภทไหนบ้าง และแตกต่างกันอย่างไร?

11/02/2022


การนำเข้าสินค้าจากจีน มีขนส่งประเภทไหนบ้าง และแตกต่างกันอย่างไร?


การนำเข้าสินค้าจากจีน ควรเลือกประเภทขนส่งแบบไหนดี จะทางรถ หรือทางเรือ ? พ่อค้าแม่ค้าควรศึกษาให้ดี เพราะการเลือกประเภทขนส่งให้เหมาะสม จะช่วยประหยัดต้นทุนในการทำธุรกิจของคุณได้ 


ในปัจจุบันประเภทของการขนส่งนำเข้าสินค้าจากจีน มีหลายช่องทางให้เลือก ทั้งทางบก ทางน้ำ หรือแม้แต่ทางอากาศ ยกตัวอย่างเช่น ขนส่งผ่านรถบรรทุก ทางเรือ รถไฟ และเครื่องบิน เป็นต้น หรือบางครั้งอาจจะเป็นการขนส่งหลายแบบรวมกัน

บริการขนส่งทางรถ จะมีการลำเลียงสินค้าโดยรถบรรทุกขนาดใหญ่ไปยังจุดหมายปลายทาง โดยวิ่งผ่านเส้นทางพรมแดนต่าง ๆ และด่านตรวจสินค้าระหว่างประเทศ เพื่อทำการตรวจสอบสินค้าก่อนเข้าและออกประเทศ ซึ่งเมื่อสินค้าเดินทางมาถึงประเทศไทยก็จะได้รับการตรวจจากศุลกากรอีกครั้ง ก่อนที่รถขนส่งนั้นจะเดินทางตรงไปยังโกดังของผู้ให้บริการนำเข้าหรือ Shipping เพื่อเตรียมจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้าในลำดับต่อไป

ซึ่งวิธีการขนส่งทางรถเป็นหนึ่งช่องทางที่ผู้นำเข้าสินค้าจากจีนนิยมใช้กันอย่างมาก เพราะสามารถส่งสินค้าให้ถึงจุดหมายได้โดยไม่ต้องมีการเปลี่ยนถ่ายยานพาหนะ หรือเรียกว่า เป็นการขนส่งแค่ต่อเดียวเท่านั้น และสามารถขนส่งสินค้าได้ตลอดเวลาตามความต้องการของลูกค้า โดยจะใช้ระยะเวลาในการขนส่งประมาณ 5-7 วันเท่านั้น แต่ก็อาจจะมีความล่าช้าเกิดขึ้นได้จากปัจจัยเหล่านี้ เช่น การจราจร อุบัติเหตุ สภาพอากาศ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการขนส่งทางรถก็ถือได้ว่าเป็นช่องทางที่สะดวกและรวดเร็ว

ข้อดี 
- มีความสะดวก และรวดเร็ว
- ไม่ต้องรอสินค้านาน ใช้ระยะเวลาขนส่งน้อยกว่าทางเรือ 
- มีรอบขนส่งจำนวนมาก สามารถขนส่งสินค้าได้ตามที่ลูกค้าสั่ง 
- ไม่มีการขนถ่ายสินค้า หรือเปลี่ยนยานพาหนะระหว่างการขนส่ง
- เหมาะกับการขนส่งระยะสั้น และระยะกลาง

ข้อเสีย
- มีอัตราค่าขนส่งสูงเมื่อเทียบกับทางเรือ
- ขนส่งสินค้าได้ในปริมาณน้อยและขนาดที่จำกัด
- มีความปลอดภัยต่ำ เกิดอุบัติเหตุบ่อย
- ระยะเวลาในการขนส่งอาจคลาดเคลื่อน ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจรและดินฟ้าอากาศ 

เหมาะสำหรับขนส่งสินค้าประเภทไหนบ้าง? 
1. สินค้าที่มีขนาดเล็กหรือขนาดปานกลาง ไม่ใช่สินค้าขนาดใหญ่ เป็นสินค้าทั่วไป อย่างเช่น ของกินของใช้ สกินแคร์ เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เป็นต้น
2. สินค้านั้นต้องมีน้ำหนักที่ไม่มากจนเกินไป อย่างเช่น เครื่องจักร เพราะการขนส่งทางรถจะมีข้อจำกัดเรื่องขนาดและน้ำหนักของสินค้า 


ขนส่งทางเรือหรือขนส่งผ่านเส้นทางน้ำ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่มีมายาวนานและนิยมใช้กันมาตั้งแต่โบราณ โดยใช้เส้นทางตามแม่น้ำลำคลองและเส้นทางขนส่งทางทะเลในการลำเลียงสินค้า ขนส่งโดยเรือที่มีการออกแบบขนาดใหญ่ สามารถรองรับน้ำหนักและขนาดของสินค้าได้ในจำนวนมาก ๆ มีระยะเวลาในการขนส่งประมาณ 12-15 วัน


โดยแบ่งตามเส้นทางขนส่งทางเรือ 3 เส้นทางด้วยกัน คือ เส้นทางการเดินเรือภายในประเทศ เส้นทางการเดินเรือชายฝั่งทะเล และเส้นทางการเดินเรือระหว่างประเทศ


ซึ่งวิธีการขนส่งทางเรือจะใช้ระบบตู้คอนเทนเนอร์ในการลำเลียงสินค้า และส่วนใหญ่จะใช้สำหรับขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ซึ่งกระบวนการต่าง ๆ จะมีขั้นตอนการขนส่งที่เฉพาะ แต่โดยรวมแล้วระบบการขนส่งนำเข้าสินค้าทางเรือก็คือ การสั่งสินค้าจากผู้ให้บริการมายังโกดังของบริษัท Shipping จากนั้นทางโกดังจะจัดเตรียมสินค้าลงตู้คอนเทนเนอร์เพื่อนำไปขึ้นเรือออกส่งมายังประเทศไทย


เหมาะสำหรับการขนส่งสินค้าที่มีขนาดใหญ่มาก ๆ และสินค้าที่มีน้ำหนักเยอะ เช่น เครื่องจักร ตู้โชว์ โซฟา เป็นต้น และเป็นสินค้าที่เกิดความเสียหายยาก ต้องใช้ความระมัดระวังในการเคลื่อนย้ายขนส่ง ก็คือการขนส่งทางเรือสามารถป้องกันการแตกหักของสินค้า หรือจะทำให้สินค้าเสียหายได้น้อยที่สุด 


ข้อดี

- อัตราค่าขนส่งถูกกว่าเมื่อเทียบกับการขนส่งทางรถ

- สามารถขนส่งสินค้าได้ในปริมาณที่เยอะ และเป็นสินค้าขนาดใหญ่

- มีความปลอดภัยในการขนส่ง สินค้าเกิดความเสียหายได้ยาก

- เหมาะกับการขนส่งระยะไกล ๆ เช่น ขนส่งระหว่างประเทศ


ข้อเสีย

- รอบการขนส่งน้อย เนื่องจากในแต่ละรอบมีระยะเวลาในการขนส่งค่อนข้างนาน 

- การขนส่งอาจจะติดขัดในช่วงฤดูน้ำลดหรือฤดูร้อน เพราะน้ำจะมีน้อย ส่งผลให้เรือเกยตื้นได้

- ระยะเวลาในการขนส่งอาจคลาดเคลื่อน ขึ้นอยู่กับภูมิอากาศ และ ภูมิประเทศ 


อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งทางรถหรือทางเรือ ควรเลือกใช้ให้เหมาะกับสินค้าที่ต้องการนำเข้า เพื่อที่จะช่วยประหยัดต้นทุนสินค้าในการทำธุรกิจของคุณได้


นำเข้าสินค้าจีนด้วยระบบ OTE